MedDent ปลื้มรัก อวัสดา (ธาดา)

อาจารย์ที่ดีย่อมไม่เคี้ยวลูกศิษย์ตัวเองอยู่แล้ว
แต่ในเมื่อเคี้ยวไปแล้ว…เขาจะทำอะไรได้

“หมายความว่ามีคนไข้เด็กด้วยเหรอ”
อวัสดาหยุดมือพลันนึกถึงคนไข้ตัวแสบ
ว่าที่คุณแม่ขมวดคิ้ว “อื้อ ดื้อ เมเนจยาก”
ปวัฒน์ขำเบาๆ “แล้วจะสอนลูกตัวเองได้เหรอ”
“สอนไม่ได้ก็ให้พ่อสอน พ่อเป็นครูนี่”
แม่เจ้าก้อนพูดอะไรเหนือความคาดหมายของอาจารย์ปวัฒน์อีกแล้ว
เขานิ่งไป พอคิดอะไรได้ก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “สอนได้ แต่ขอค่าแรงด้วย”
“...!”

“หกนี่รวมวิจัยแล้วนะ ถ้าเงินเดือนเฉยๆ นี่รับสามหมื่น”
“แค่นี้!? แล้วถ้าเป็นหมอล่ะ”
“ถ้าเป็นหมอก็ได้มากกว่านี้นิดหน่อย”
“เหรอ…แล้วจะให้ลูกบอกคนอื่นว่าพ่อทำงานอะไรดี”
“บอกว่าเป็นครูแล้วกัน”
“แล้วถ้าคนอื่นถามว่าสอนอะไร”
“พ่อเป็นครูสอนหมอ จบมั้ย”
_______
MedDent ปลื้มรัก
ผู้เขียน ธาดา
สำนักพิมพ์ ดีต่อใจ


เป็นเรื่องที่อ่านตั้งแต่ตอนที่ลงในเด็กดี ตั้งใจจะอ่านเล่นๆ แต่ดันติด เพราะชอบทัศนคตินักเขียน พล็อตเรื่องแบบนี้มีเยอะมากนะ แต่กลับทำให้รู้สึกต่างออกไป อย่างเรื่องที่ผู้ชายคนนี้ เขาไม่ใช่คนรัก เป็นคนแปลกหน้าด้วยซ้ำ ถึงจะท้องกับเขาก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นภรรยาของเขา ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นครอบครัวเดียวกัน เพียงแต่มาร่วมกันรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองก็เท่านั้น หรือเรื่องที่นางเอกตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองมีอะไรกับผู้ชายแปลกหน้า แต่ไม่มีซีนโวยวายหรือฟูมฟาย เข้าใจว่าตัวเองก็อาจพลาด ไม่ได้ระมัดระวังดูแลตัวเองให้ดีพอด้วย

ดำเนินเรื่องเรื่อยๆ เหมือนอ่านไดอารี่ ความสัมพันธ์ของพระเอกนางเอกเป็นแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป 
มีตัดบทแบบกระทันหันไม่ค่อยต่อเนื่องบ้าง ยอมรับว่าตอนอ่านแรกๆ ก็งงเหมือนกัน แต่อ่านไปเรื่อยๆ จะชิน มีศัพท์เฉพาะทางในเรื่องค่อนข้างมาก ด้วยอาชีพของทั้งพระเอกและนางเอก ความไม่สมเหตุสมผลแน่นอนว่ามี แต่โดยส่วนตัวมองข้ามได้ เพราะชอบภาพรวมของเรื่องมากกว่า

"จะถามว่าพี่ไม่ดีตรงไหนเหรอ ทำไมแพรไม่อยากจดทะเบียนด้วย"

ที่ปลื้มมากๆ แน่นอนว่าต้อง พี่ปลื้ม เป็นพระเอกที่รู้สึกว่าจับต้องได้จริงๆ หน้าตาดี แต่ไม่ได้บรรยายให้หล่อเว่อร์อะไร หน้าที่การงานดีบ้านมีตังค์ แต่ไม่ได้ถึงกับร่ำรวยเป็นเศรษฐี มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่ สุภาพ สายเปย์ แต่เปย์ในเรื่องที่ควรเปย์ ไม่ได้ตามใจอะไรไปเรื่อย รู้จักคิด รู้จักวางแผน พึ่งพาได้

ไม่เชิงเป็นนิยายรัก แต่เหมือนเป็นชีวิตจริงของคนคู่หนึ่งที่ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรัก แต่มา
เรียนรู้ ปรับตัว และประคับประคองความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจนี้ไปด้วยกัน เป็นเรื่องที่ไม่ได้หวานแหวว แต่อมยิ้มได้ตลอด แนวครอบครัว อ่านได้เพลินๆ




ตามพจนานุกกรม อวัสดา หมายถึง ความเป็นอยู่
ปวัตน์ หมายถึง ความเป็นไป
แต่ ‘ปวัฒน์’ ของอวัสดา คือความเป็นไปที่สวยงาม

อวัสดากำลังต้องการใช้เงิน การชอปปิงรอลูกเลิกเรียน
จึงจบลงแค่ฝากแหวนแต่งงานสองวงชุบทองขาวให้เงาวิ้ง
เฮ้อ นิ้วว่างๆ นี่ไม่ชินเอาซะเลย

แม่ลูกพีชกดโทรศัพท์ยิกๆ
ปวัฒน์เห็นนิ้วนางของหล่อนว่างเปล่าก็ขมวดคิ้ว
“แหวนไปไหน” ผู้ชายไม่หนุ่มแน่นกระซิบข้างแก้ม
คุณแม่ลูกสองไม่เขินเหมือนตอนสาวๆ ตอบเสียงเรียบ
“อยู่ที่ร้าน”
“อ๋อ เอาไปจำนำ?” ปวัฒน์พูดแหย่
“เอาไปชุบ!” อวัสดาโกรธจนหน้าแดง สามีหัวเราะเสียงดัง
“โอ๊ย! เอาไปจำนำจะได้กี่หมื่น ดาวน์รถยังไม่ได้เลย”
ครูจนๆ ยังขำไม่หยุด “เป็นเมียคนจนต้องทนหน่อยน้องงงง”
_______
อวัสดา


เรื่องราวหลังจากหมอแพรเรียนจบ และลูกพีชก็กำลังจะได้เป็นพี่ชาย ยังคงเหมือนการอ่านไดอารี่ของครอบครัวนี้อยู่ ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน วางแผนการเงิน เลี้ยงลูก ความน่าเอ็นดูของเด็กขี้สงสัย 
เนื้อหาไม่ได้มีอะไรมาก ออกมาเพื่อเติมเต็มปลื้มรัก อ่านเพลินๆ อมยิ้มอิ่มใจไปกับครอบครัวสุขสันต์ อ่านจบแล้วยังรู้สึกว่าชีวิตของพวกเขายังก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่น่าเสียดายที่เราจะไม่ได้รับรู้ต่อแล้ว

ตอนแรกนึกว่าจะมีฉากพี่ปลื้มหึง แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่มี ...ซึ่งพอเป็นแบบนั้นแล้วก็คิดว่าก็ดีแล้วนะ ดูเป็นการพูดคุยเรื่อยเปื่อยหยอกล้อกันไปในครอบครัว แอบมีตอนพิเศษสั้นๆ ใน meb '
ปลื้มรักอวัสดา' ที่ได้เห็นความน่ารักของคู่นี้เพิ่มอีกหน่อย เนื้อหาก็... ตามชื่อเรื่องนั่นแหละ :-)



Post a Comment

Previous Post Next Post